สมุนไพร ไทย ต่างชาติคุณสมบัติรักษาป้องกันบรรเทาโรค ไม่ทำลายตับ

            เพียงกินสิ่งนี้เป็นประจำไม่ง้อยางคนรู้เรื่องนี้น้อยมากไปอยู่กับเราเเขียวมารับประทานคู่กับน้ำพริกทั้งแบบสดและแบบต้มที่สุดและนำไปปรุงอาหารหลากหลายเมนู นิยมใช้กันมากไม่ว่าจะเป็นทานแบบสดๆหรือนำมาประกอบอาหารสารพัดเมนูหรือชาวเวียดนามก็มีความนิยมไม่แพ้กันขนาดเสริมกระเจี๊ยบเขียวให้มาย่างกันแบบสดๆอีกด้วยแต่ไม่น่าเชื่อคำว่ากระเจี๊ยบเขียวปริมาณ 100 กรัมจะให้พลังงานประมาณ 33 colonee นอกจากนั้นยังมีส่วนประกอบอีกมากมายเช่นโปรตีนไฟเบอร์โพแทสเซียมวิตามินซีที่มีสารประกอบฟีนอลิกและสารฟลาโวนอยด์ด้วยกระเจี๊ยบเขียวที่ปลูกกันมากมายในประเทศไทยนั้นว่ากันว่าเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศเอธิโอเปียแต่พบกระเจี๊ยบเขียวในแถบศูนย์สูตรของทวีปแอฟริกาอียิปต์อินเดียตะวันตกและเอเชียใต้เรารับประทานกระเจี๊ยบเขียวกันมาช้านานแต่มีคนรู้จักสรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียว ยับยั้งการทำงานของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารความเสี่ยงในการเกิดแผลในกระเพาะอาหารจึงลดลงข้อที่ 3 ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเนื่องจากว่ากระเจี๊ยบเขียวนั้นจะมีไฟเบอร์ชนิดที่ไม่ละลายน้ำและไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้อยู่ในตัวซึ่งช่วยในการชะลอการดูดซึมน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือดส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่นั่นเองข้อที่ 4 เพิ่มจำนวนแบคทีเรียชนิดที่มีประโยชน์สารเมือกและเส้นใยชนิดที่ละลายน้ำได้ของกระเจี๊ยบเขียวเหมือนลงไปสู่ลำไส้ใหญ่ไปช่วยในการกระตุ้นให้แบคทีเรียชนิดดีก็คือพรีไบโอติกเจริญเติบโตได้ดีช่วยลดแบคทีเรียชนิดที่ไม่ดีในลำไส้ได้ด้วยข้อที่ 5 รักษาอาการแสบร้อนที่ผิวหนังอื่นๆของ

                กระเจี๊ยบเขียว ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นสำหรับของกระเจี๊ยบเขียวมาพอกผิวหนังที่รู้สึกแสบร้อนข้อที่ 6 ผู้จัดการบำรุงสตรีหลังคลอดจะมีสารเพคตินมากเมื่อทานเข้าไปจะช่วยในการสมานแผลภายในของสตรีหลังคลอดบุตรให้กลับมาเป็นปกติจากนั้นแล้วยังช่วยในการสร้างเซลล์ที่ผิวหนังไม่ให้เป็นแผลเป็นหน้าท้องไม่ลายในการบำรุงกระดูกและฟันกระเจี๊ยบเขียวยังเป็นพืชที่มีแคลเซียมสูงช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันใกล้อีกต่างหากรับข้อที่ 8 ต้านการเกิดโรคมะเร็งเป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงโดยเฉพาะปูตาไทโอนที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมสารอนุมูลอิสระในร่างกายกระตุ้นการสร้างซ่อม ทำปฏิกิริยาเขาจัดผิดที่เกิดในร่างกายและช่วยต้านมะเร็งได้อีกด้วยอย่างที่กล่าวมาแล้วชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานกระเจี๊ยบเขียวกันมากซึ่งวันนี้เรามีเมนูเด็ดของชาวญี่ปุ่นมาฝากกันเริ่มจากการนำเอากระเจี๊ยบเขียวมาล้างให้สะอาดใช้มีดหั่นเอาควบผลออกเล็กน้อยต้มน้ำในหม้อให้เดือดแล้วก็เติมกระเจี๊ยบเขียวลงไปต้มประมาณ 1 นาทีแล้วนำมาล้างน้ำในน้ำเย็นหลังจากนั้นมันก็เจ็บเขียวเป็นท่อนๆใส่ลงไปในเครื่องปั่นเติมน้ำซุปเข้มข้นและน้ำลงไปต้นกระเจี๊ยบเขียวละเอียดจากนั้นใช้ช้อนตักราดบนข้าวสวยร้อนๆเติมไข่ออนเซ็นหรือว่าไข่ต้มยางมะตูมลงไปหากชอบรสชาติเผ็ดก็เพิ่มกิมจิลงไปได้รับประทานได้แค่ทุกวัน เมนูนี้ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าจะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเหนื่อยล้าจากความร้อนได้ดีแต่อย่างไรก็ตามถ้าท่านต้องการรับประโยชน์จากไฟเบอร์ในกระเจี๊ยบเขียวอย่างเต็มทีแนำให้น้ำกระเจี๊ยบเขียวม่านซอยผสมน้ำเล็กน้อยแล้วคนให้เหนียวไว้รับประทานโดยไม่ต้องผ่านความร้อนแต่หากไม่สามารถรับประทานได้ก็แนำว่าเวลาต้มก็ไม่ควรจะต้มนานจนเกินไปแต่ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวดีๆที่รักมาฝากกันในวันนี้ก่อนจากกันบอกหน่อยว่าถ้าน้ำเอากระเจี๊ยบเขียวไปทำเป็นเมนูไหนที่จะชอบมากที่สุดอย่าลืม comment บอกกันไว้ใจและหากท่านเป็นคนหนึ่งที่รักสุขภาพแล้วก็ชอบเรื่องราวที่เป็นประโยชน์